เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งบังเอิญเป็นวันเกิดฉัน ฉันได้มีโอกาสไปเยี่ยมเด็กๆ กลุ่มหนึ่งที่อำเภอเชียงดาว ซึ่งใช้เวลาขับรถจากอำเภอพร้าวราว 1 ชั่วโมง
พวกเขาอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านปางแดง ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเชียงดาวประมาณ 20 นาที เด็กๆ เป็นชาวเขาเผ่าดาระอั้ง (หรือปะหล่อง)
บรรพบุรุษของพวกเขามาจากตอนใต้ของประเทศจีน แต่มีจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในเมียนมาร์ในปัจจุบัน อย่างไรก็ดี ด้วยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจสังคมและการเมือง พ่อแม่ปู่ย่าตายายของเด็กๆ เหล่านี้จำต้องอพยพจากเมียนมาร์มายังประเทศไทยโดยไม่มีเอกสารทางกฎหมาย แม้ว่าเด็กๆ จะเกิดในประเทศไทย แต่พวกเขาส่วนใหญ่เป็นคนไร้รัฐ หมายความว่าพวกเขาไม่มีเอกสารที่อนุญาตให้พวกเขาอยู่ในเมืองไทยได้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มีบัตรประชาชน บัตรประจำตัวผู้ลี้ภัย หรือบัตรชาวเขา ไม่มีอะไรทั้งสิ้น
พวกเขาได้รับอนุญาตให้อยู่ในอำเภอได้ แต่ห้ามเดินทางออกนอกพื้นที่โดยไม่ขออนุญาต
นอกจากนี้ เด็กหลายคนได้รับการศึกษาแค่ระดับประถมจนถึงอายุ 12 หรือราวๆ นั้น และต้องไปทำนากับพ่อแม่ หรือไม่ก็แต่งงานตั้งแต่อายุ 13 หรือ 14
โชคดีที่พวกเขาได้รับการสนับสนุนทั้งจากบุคคลและองค์กรหลายแห่ง รวมทั้งองค์กรที่เป็นพันธมิตรของเรา ซึ่งก็คือ กลุ่มละครมะขามป้อม
พวกเขาทำงานกับเด็กๆ ในชุมชนมาเกือบ 10 ปีแล้ว และตอนนี้กำลังจะเปิดละครโรงเล็กสำหรับเด็กๆ อีกด้วย!
เอาล่ะ แล้วฉันไปทำอะไรที่นั่นเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม
เพื่อนกลุ่มมะขามป้อมให้ฉันไปเล่าเรื่องราวชีวิตและการทำงานที่คาราวานหนอนหนังสือให้เด็กๆ ฟัง เพื่อจะทำเป็นสมุดภาพแบบง่ายๆ
ฉันเล่าให้เด็กๆ ฟังว่าอะไรทำให้ฉันมีนิสัยรักการอ่าน และแสดงวิธีการอ่านอักษรเบรลล์ให้พวกเขาดู ฉันไม่เคยเจอเด็กที่ไหนในเมืองไทยสนใจใคร่รู้และกล้าหาญมากเท่าพวกเขาเลย!
ฉันสนุกกับการฟังเรื่องราวของเด็กๆ เช่นว่า พวกเขาทำอะไรในเวลาว่าง หรือกินอะไรกันในแต่ละวัน ฯลฯ
พวกเขายังสอนคำศัพท์ในภาษาดะระอั้งให้ฉัน ซึ่งฉันลืมไปหมดแล้วในเวลาอันรวดเร็ว :P
ปัญหาของคนไร้รัฐและผู้ลี้ภัยในประเทศไทยมีความละเอียดซับซ้อน ไม่ว่าใครก็ไม่อาจด่วนสรุปได้ง่ายๆ
แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือ ฉันภาวนาอย่างสุดจิตสุดใจเพื่ออนาคตที่ดีกว่าของพวกเขา อนาคตที่พวกเขาจะได้เลือกอย่างมีสิทธิเสรีด้วยตัวเอง
ที่สำคัญไม่แพ้กันและฉันมีความชื่นชมอย่างยิ่ง ก็คือกลุ่มละครมะขามป้อมกับการสร้างพลังในด้านบวกให้แก่เด็กๆ ไม่ว่าพวกเขาจะเผชิญสถานการณ์เลวร้ายสักเพียงใด
ขอสรุปสั้นๆ ว่าไม่มีวันเกิดวันไหนจะสุขใจได้มากเท่านี้อีกแล้ว!
ส่งข่าวถึงเรา